วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2559

วิธีสร้างกล่องไฟด้วยกล่องกระดาษภายใน 5 นาที

ตัดหัวเสียบประจานผมติดพ้นก้บเรื่องราวของ “เสือนาก” แห่งราชบุรี จนไม่ได้เล่าว่าเดลิเมล์ได้จัดให้มีการ์ดูนล้อการเมืองในหน้า ๓ ในฉบับประจำวันที่ ๑๑ลิงหาคม มีบ้างไม่มีบ้างจะด้วยเหตุใดก็สุดรู้ แต่กลับได้ความรู้ว่าผู้เขียนการ์ตูนการเมืองคนแรกนั้นใช้ชื่อว่า “เปล,ง” นำลงใน “กรุงเทพเดลิเมล์”สมัยที่นายหลุย คีรีวัต เป็นบรรณาธิการ ชื่อจริงของนามปากกา “เปล่ง”คือขุนปฏิภาคพิมพ์ลิขิต หน้าตาจะเป็นอย่างไรก็สุดรู้ เพราะกรุงเทพเดลิเมล์ได้ปิดตัวเองไปนานแล้วแต่ถึงอย่างไร ขอสลับฉากด้วยสารคดีที่มีผู้นำเอา1ไปสร้างเป็นภาพยนตร์ไทยลักหน่อย สารคดีที่ว่านี้คือ photobox เบื้องหลังข่าวปล้นร้านทอง“เบ๊ลี่แซ” ซึ่งติดตามมาเสนอใน “พิมพ์ไทย” จนทำให้ผู้ทำสภู๊ปข่าวนี้คือคุณสมบูรณ์วิริยคิริ โด่งดังขึ้นมา ผู้ที่นำเอาสารคดีนี้ไปสร้างคือ “ท่านขาว” อันเป็นที่รู้จักกันว่าหมายถึง ม.จ.คุกรวรรณดิศ ดิศกุล แล้วใช้ชื่อเรื่องว่า “ศาสนารักของนางโจร”“ท่านขาว” ขอให้คุณสมบูรณ์และพวกพ้องหนังสือพิมพ์ใปดูบางตอน บางฉาก ที่วังสี่กั๊กพระยาศรี และภาพยนตร์เรื่องนี้เมื่อสร้างเสร็จ 

ขุนปปีภาคพิมพ์ลิขิต (เปล่ง ไตรปีน)กา{ตุ)นนิสต์รุ่นแรกของไทยแล้วก็ฉายที่โรงภาพยนตร์สี่กั๊กพระยาศรียุคนั้นดารานอกจากจอก ดอกจันทร์ ที่เป็นดาวเด่นแล้วก็ยังมีฉลอง สิมะเสถียร, สุพรรณ ยุ!รณะพิมพ์ ผู้โด่งดังด้วยบท “นวล”  photolightbox ในภาพยนตร์ โดยแสดงคู่กับนักมวยหนุ่ม'ฐซัย พระขรรค์ชัย ก่อนจะมาเป็นภาพยนตร์ พระเจ้าวรวงค์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุยุคล ได้ทรงนิพนธ์เป็นละครเวที ณ ศาลาเฉลิมไทย ผู้แสดงเป็นพระพุทธเจ้าเสือคือจอก ดอกจันทร์เฉลิม คล้ายนาค “บินเดี่ยว” ไปทำลภู๊ปที่ปทุมธานี เป็นข่าวที่ไม่ปรากฏใน “พิมพ์ไทย” โดยคุณเฉลิมตามไปกับเจ้าหน้าที่กองปราบฯซึ่งบุกไปหมู่ cr ต.บึงบอน อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ไปเรือกับตำรวจ ชื่อเรือ “นครบาล ๒” เป้าหมายที่คุณเฉลิมเล่าให้ฟังว่า ไปรู้เอาตอนลงเรือแล้วว่าเป็นบ้าน “เสือเหนี่ยง” สุขหอม พอฟ้าแจ้งจางปางเรือก็ถึงบ้านเสือเหนี่ยง๙๒ ฝ่าทะเลนํ้าหมึกภาพทีตำรวจเห็นคือ เหนียงถือดาบยืนจังท้า ร.ต.ต.สมโภชน์ผู้,นำกำลังตำรวจไม่รีรอ แม้ว่าเสือเหนี่ยงจะยืนจังท้าแล้วก็สามารถรวบตัวไว้ได้โดยไม่มีการต่อแสียเลือดเนื้อแต่อย่างใดเหนี่ยงมีเมียชื่อชุ้น มีลูก ๖ คน ถูกรวบตัวอย่างรวดเร็วชนิดไม,ทันเงื้อดาบ เหนี่ยงร้องบอกลูกสาวให้ไปเอาเงิน ๕๐ บาทที่บ้านกำนันก่อนที่จะถูกนำตัวลงเรือ ลูกสาวถือธนบัตรสิบบาท ๕ ฉบับมาส่งให้พ่อ ตำรวจพานั่งเรือกลับออกมา ข่าวแพร่สะพัดอย่างรวดเร็ว  lightroomราคา มีซาวบ้านออกมาดูกันและเมื่อถึงคลองรังสิตนั้นมีชาวบ้านเอาเงิน ๒๐๐ บาทมายื่นให้คงมีความสงสัยกันว่า การหาข่าวจนได้ข่าวเดี่ยวอย่างนี้มีวิธีการอย่างใดหรือ แล้วคู่แข่งทำไมจึงไม่ เมือมีข่าวออกหน้ากระดาษแล้วไม่มีการต่อว่าต่อขานกันหรือผมเคยเล่าให้ฟังมาก่อนแล้วว่า ความยากลำบากส่วนใหญ่มักจะไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้ที่เป็นทั้งผู้ต้องหาและเจ้าทุกข์ เขาเหล่านั้นพอเห็นนักข่าวแสดงตัวด้วยการหยิบกระดาษ ดินสอออกมา เขาก็จะพูดน้อยที่สุดหรืออาจไม่พูดด้วยเลย เมื่อเป็นเช่นนี้ไม่ว่า “พิมพ์ไทย” หรือ“เดลิเมล์” ก็มักจะไม่แสดงตัว นักข่าวกับช่างภาพจะไม่เดินด้วยกันยกเว้นในบางกรณีส่วนด้านตำรวจนั้น ถ้าหากเราสามารถทำให้เกิดความไว้วางใจเฉพาะอย่างยิ่งบรรดานายร้อยเวร ว่าข่าวไหนนายตำรวจเล่าให้ฟังแล้วบอกว่าอย่าเพิ่งเขียน กล่องไฟไลท์บ็อกซ์  เราก็จะไม่เขียน จะอดใจรอด้วยความแน่ใจว่า คำร้องขอเช่นนี้จะไม่เไปถึงคู่แข่ง ความไว้วางใจเช่นนี้ทำให้เกิดความร่วมมือกันในหลายทางแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มิได้หมายความว่าจะเป็นเช่นนี้ทุกโรงพัก ดูเหมือนสถานีตำรวจพระราชวังจะเป็นที่เดียวที่ “นักข่าว” จะแหยง เรียกว่าเข้าไม่ติดก็แล้วกัน ยกเว้นข่าวใหญ่


กล่องไฟถ่ายภาพ

วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2559

วิธีทำกล่องไฟถ่ายภาพด้วยกล่องลังกระดาษแข็ง ตอนที่ 1

 ประตูให้ลงจากรถ พลฯ จันทร์ ช้างทอง โดดลงพอยืนได้ก็วิ่งถลาไปข้างหน้า คว้าจักรยาน (ของใครก็ไม่รู้) ถีบหนีไปซึ่งๆ หน้า เจ้าหน้าที่ตกตะลึงพรงเพริดเพราะไม่คิดว่าจะเกิดเหตุเช่นนั้น นักโทษที่ผ่านการตัดสินประหารชีวิตนั้นจะว่าไปก็มีการจองจำอย่างมั่นคงอยู่แล้ว แต่นักโทษจันทร์เตรียมการมาก่อนแล้วด้วยการใช้ตะไบซึ่งญาติเอาชุกมากับสิ่งของส่งมาเยี่ยมเลื่อยส่วนที่เป็นวงแหวนของตรวนขนาด หุน,จนขาด แต่ระหว่างที่นั้งมาในรถได้ใช้ผ้าปิดคลุมเอาไว้ ฉะนั้น จึงสามารถสลัดตรวนออกแล้วโดดลงมาได้ แม้จะเป็นจักรยานแต่ตำรวจก็ไม่สามารถตามจับมาได้นักโทษจันทร์หลบหนีไปได้เดือนเศษ ตำรวจก็สืบรู้ว่าไปหลบซ่อนที่ลันกำแพง ตำบลบ้านปาเมี่ยง ตำรวจล้อมบ้านหลังหนึ่งในตอนพลบคํ่าจึงมีการต่อสู้กัน แล้วผู้ร้ายก็ตายตอนจบด้วยลูกปีน จะต่างกันก็ตรงที่ไม่ใช่ยืนให้ยิงที่หลักประหารเท่านั้นจะเห็นว่า เหตุการณ์นี้เกิดจากบุคคลที่สวมเครื่องแบบตำรวจตกเป็นจำเลยฐานฆ่าคนตาย ผ่านการพิจารณามาสองศาลที่เห็นว่าต้องประหารชีวิต กับเหตุการณ์ที่ศาลเหมือนกันที่ฉะเชิงเทรา ผ้ต้องหามีตำรวจ“นาย พลเรือน ๒ คน กล่องไฟไลท์บ็อกซ์  ทังศาลชันต้นและอุทธรณ์ตัดสินให้ปล่อย แต่เมื่อคดีถึงศาลฎีกาเหตุการณ์กลับตาลปัตรและตามมาด้วยพฤติกรรมที่ราวกับลอกแบบกันมาเลยก็ว่าได้พฤติกรรมรายนี้จำเลยสำคัญที่เป็นตำรวจเป็นผู้มีอิทธิพลคับบ้านคับเมืองก็ว่าได้ ทำให้การไปทำข่าวต้องวางแผนด้วยความไม่ประมาทจะด้วยเหตุใดผมก็จำไม่ได้แล้วว่า วันนั้นไปที่สถานีหัวลำโพงทำไมแล้วพบกับประชุม กาญจนวัฒน์ ผู้มืบ้านเกิดที่บางคล้า ฉะเชิงเทรา ลงมาจากรถไฟแล้วก็เล่าพฤติกรรมที่เกิดขึ้นที่ฉะเชิงเทราเมื่อตำรวจเผ่นหนีศาลพร้อมกันหมดทั้งแปดคน (เป็นพลเรือน ๒ คน) หลังจากผู้พิพากษาได้อ่านการวินิจฉัยและตัดสินของศาลฎีกาแล้ว 

 ขออนุญาตเรียบเรียงเนื้อหาของเหตุที่เกิดขึ้น ดังนี้ศาลฎีกาได้เรียกจำเลยทั้งแปดคนอันมี จ.ส.ต.พาน, ส.ต.ท.ปรีชา,ส.ต.ต.ปราโมทย์, ส.ต.ต.ชาญดักดิ้, พลฯ จ้าน, พลฯ สุวรรณ, นายวินเสมียนมหาดไทย และนายวรรณ ให้มาฟังการตัดสินของศาลฎีกา จำเลยทั้งแปดคนผ่านการพิจารณาของศาลชั้นต้น, ศาลอุทธรณ์ตัดสินให้ปล่อยจำเลยที่ต้องหาว่าได้ฆ่านายสนุ่น โดยนายวรรณแจ้งให้จับนายสนุ่นข้อหาลักกระบือของนายวรรณ แต่แทนที่จะนำนายสนุ่นมาดำเนินคดี จำเลยรู้เห็นเป็นใจใช้ปันยิงกรอกปากนายสนุ่นตาย นายบุญช่วยบิดาของนายสนุ่นจึงแจ้งความดำเนินคดีศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง จึงให้จำคุกส.ต.ต.ปราโมทย์กับนายวรรณตลอดชีวิต จ.ส.ต.พาน, ส.ต.ต.ปรีชา, ส.ต.ต.ชาญดักดี้, พลฯ จ้าน, พลฯ สุวรรณ photolightboxราคาถูก  และนายวิน จำคุกคนละ ๒๐ ปี การอ่านคำพิพากษานี้นายบุญช่วยได้มานั่งฟังอยู่ด้วยเมื่ออ่านคำพิพากษาแล้ว เจ้าหน้าที่หน้าบัลลังกิจึงนำสำนวนมาให้จำเลยซึ่งแต่งตำรวจทั้ง ๖ นายไม่มีการจองจำแต่อย่างใด เพราะมีการประกันตัวระหว่างฎีการวมทั้งพลเรือนด้วย นายวรรณทำท่าจะเซ็นชื่อก่อนแต่เมื่อเหลือบไปเห็นเพื่อนอีก ๗ คน เดินออกจากบัลลังก์เหมือนไม่สนใจนายวรรณรีบวางปากกาแล้วตามคนทั้ง ๗ ออกมาส.ต.ต.ปราโมทย์กระซากปีนออกมาพร้อมทั้งประกาศหน้าที่ทำการศาลว่า หากใครต้องการตัวก็ขอให้เข้ามาจับ ด้วยท่าทางและปีนในมืออย่างนั่นจะมีใครหน้าไหน ถึงตำรวจก็เถอะ แล้วตำรวจสามนายก็คว้าเอาจักรยาน (ของใครก็ไม่รู้) ที่จอดอยู่หน้าศาลชื่ออกไปโดยเร็ว ล่วนอีก๕ คนนั่นแยกย้ายออกไปจ.ส.ต.พานกับพวกบางคนมุ่งไปที่โรงแรมเย็นใจ ซึ่ง จ.ส.ต.พานทำหน้าที่เป็นผู้จัดการอยู่ที่นั่น ที่แยกกันไปก็ไปรอที่ท่าเรือเขียวไข่กา จ,ส.ต.พานไปถึงโรงแรมแล้วเก็บของใช้ส่วนตัวลงกระเป๋า คนที่ตามมาด้วยกันก็ลงไปรอที่เรือยนต์ชี่งจอดในคลองข้างโรงแรม จ.ส.ต.พานตามมาสมทบขับเรือออกไปที'ท่าเขียวไข่กา รับเอาพรรคพวกที่รออยู่แล่นออกไปทางแม่'นาบางปะกงส่วนนายบุญช่วยนั้นเมื่อเห็นเหตุการณ์อันคาดไม,ถึงก็รืบกลับบ้านเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าด้วยเหมือนกัน เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไม่รู้เหมือนกันว่าลี้ภัยหรือกลัวตาย?นั้นคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมด ผมเดินทางไปฉะเชิงเทราโดยรถไฟ รถไฟใช้เวลาสองชั่วโมงจากหัวลำโพงซึ่งออกเวลา  กล่องไฟถ่ายรูปสินค้า จากนั้นผมนั่งสามล้อไปที่ศาลก่อน แต่เมื่อได้ทราบว่าปลัดจังหวัดขณะนั้นคือ

ร.ต.ท.ชาญ สุทธะ'พินทุ อดีตนายอำ๓อเมืองชล รู้จักกับผมดี เพราะผมเคยร่วมทำละครเวทีหาเงินสร้างโรงเรียนวัดช่องลมบางทราย ผมจึงเร่ไปหาแล้วเล่าให้ฟังว่ามาทำไม ปลัดจังหวัดจึงเล่าให้ฟังเท่าที่รับทราบเหตุการณ์และว่าเรื่องนี้ ฃุนวรคุตคณารักษ์ ผู้ว่าฯ ทราบเรื่องดีตามรายงานของตำรวจ จากนั้นผมจึงไปพบผู้ว่าฯ แล้วออกความเห็นว่า “เชื่อผมเถอะ ไปไหนไม่รอดหรอก บ้านช่องมันอยู่ในเมืองกันทั้งนั้น”จากผู้ว่าฯ ผมกลับไปที่ศาล ถ่ายภาพศาลและเล้นทางจากศาลออกไป ระหว่างถ่ายภาพอยู่มืเสียงพูดเข้าหูผม “ทำอะไรระวังหน่อยนะพรรคพวกที่นี่หูตาของเขามาก” ผมรู้ทันทีว่าหมายถึงผม เมื่อหันขวับมาจึงพบว่าคนที่พูดนั้นคือประภัศร์ เพื่อนผมซึ่งทำงานอัยการย้ายมาจากชลบุรีอีกเหมือนกัน ผมจึงฃอดูสำนวนก่อนแล้วก็ถามไถ่กันอีก“เราไม่อยากคุยตรงนี้” เขาพูดเบามากแล้วรั้งผมออกมานั่งสามล้อหน้าศาลไปที่แห่งหนึ่งซึ่งห่างจากที่ทำการศาลประมาณ 4roo เมตรประภัศร์พบเหตุการณ์โดยบังเอิญ เขาถีบจักรยานมาที่ศาลพอดีกับกลุ่มจำเลยที่ฃี่จักรยานขี่สวนทางกัน  diyกล่องไฟ เขาถามผมว่าจะทำอะไรต่ออีก ผมบอกว่าอยากถ่ายภาพโรงแรมเย็นใจ ประภัศร์อึกอักบ่นไม่อยากให้ผมเสี่ยง  แต่ผลที่สุดก็บอกตำแหน่งแห่งที่ให้เรียบร้อย ก่อนจากกันเขากำชับผมว่าถ้าธุระเรียบร้อยแล้วให้รีบกลับโดยเร็ว อย่ารีรออยู่อีกนั่นแสดงถึงอิทธิพลของจำเลย เฉพาะอย่างยิ่ง จ.ส.ต.พานผมเชื่อประภัศร์จึงนั่งสามล้อกลับไปสถานีรถไฟ ซื้อตั๋วโดยสารกำหนดเที่ยวประมาณ ๑๕.00 หรือ ๑๖.๐๐ น. ก็จำไม่ได้ แล้วนั่งสามล้อไปตามถนนที่ตรงไปยังสะพานข้ามคลอง ซึ่งเมื่อยืนบนสะพานนั้นจะมองเห็นโรงแรมเย็นใจ แต่ผมยังไม่ถ่ายรูปเพียงแต่จับเวลาดูว่า จากสถานีรถไฟมาถึงตรงเชิงสะพานนั้นกี่นาที ผมมองดูนาพีกายังมีเวลา จึงเดินไปแวะที่ร้านกาแฟลังโอเลี้ยงมาดื่มฆ่าเวลาไปพลาง

กล่องไฟถ่ายรูป

วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2559

กล่องไฟสตูดิโอ เรื่องการถ่ายรูปของคุณจะเป็นเรื่องเล็กไปเลย ตอนที่ 1





หลังเล็กและถูกบดบังรัศมีโดยตัวคลองนั่นเอง มันเป็นสายนํ้าใสสงบเงียบที่อุดมไปด้วยปลา มีเรือผูกจอดไว้ตรงนั้นตรงนี้ตลอดริมนํ้า ไม่ใช่เรือยอช์ตฃนาดใหญ่ แต่เป็นจักรยานนำและเรือแคนู นกกระสาสีขาวตัวหนึ่งเกาะอยู่บนหัวเรือท้องแบนลำเล็ก กำลังมองลงไปที่บุฟเฟต์อาหารเช้าของมันในนํ้าบ้านพักของคลินต์เป็นหนึ่งในบ้านหลังใหม่พร้อมสวนขนาดพอเหมาะไม่กี่หลัง มีต้นส้ม แปลงกุหลาบ และสนามหญ้าที่มีโต๊ะอาหารทำจากไม้สักหนึ่งชุด ผมเห็นนกฮัมมิงเบิร์ดตัวหนึ่งกำลังบินวนเวียนตามดอกไม้ตรงพุ่มไม้ มันเงียบสงบมากพอที่จะได้ยินเสียงนกตัวเล็กจิ๋วเลยละ เสียงที่พอได้ยินก็มีเพียงเสียงตอกจากระยะไกลของคนงานในพื้นที่ก่อสร้าง เสียงเครื่องบินใบพัดบินอยู่เหนือหัว และเสียง!ง ติ๊ง ของนํ้า'ใน'นาพุประดับ สวนผมเดินผ่านเข้าไปในประตูรั้วของสวน และเคาะที่ประตูสีแดงเข้มส่องประกายแวววับในแสงอาทิตย์ราวกับว่าสียังเปียกอยู่ มันทำให้ผมฉุกคิดขึ้นได้ว่า ผมเดินทางมาไกลมากแล้วตั้งแต่ครั้งที่ผมเคาะประตูหน้าบ้านที่ส่องประกายคล้ายๆ ชุดตู้ไฟสตูดิโอราคาถูก กันนี้ในย่านบร็องช์ประตูเปิด และชายหนุ่มคนหนึ่งก็โผล่ออกมาจากสวน“โอ้ ขอโทษครับ เอ้ บาย เจอกัน”

เขาพึมพำคำทักทายและบอกลารวมกัน แล้วก็วิ่งเหยาะๆ ออกไปตามทางเดินริมคลองพลางเหยียดแขนและหลังของเขาไปด้วยเอโลดีก้าวออกมาเพื่อดูเขาจากไป เธออยู่ในชุดกิโมโน ไร้เครื่องสำอาง เหมือนเพิ่งลุกมาจากเตียง“อย่าลืมมัฟฟินนะคะ” เธอตะโกนชายที่เพิ่งจากไปยกแขนขึ้นเพื่อแสดงการรับรู้“นั่นเจอรี่” เธอบอกผม“เขาไม1ได้เป็นหนึ่งในทีมฝรั่งเศสของคุณใช่มั้ยเนี่ ย เฃาดูไม่เหมือนวิศวกรเลย”  สีหน้าของเธอดูขัดๆ เขินๆ กึ่งหน้าแดง กึ่งหัวเราะ “ไม่ใช่หรอกฉันเจอเขาที,ชายหาดเมื่อคริสต์มาสที่แล้ว เขาเป็นนักแสดง  photolightbox แต่เขาต้องการจะเป็นพนักงานเสิร์ฟน่ะ”“มันไม่ได้กลับกันหรอกหรือ" ผมถาม“ก็ใช่น่ะสิ ฉันเดาว่าเขาแค่ต้องการจะทำอะไรที่แตกต่างน่ะ นั่นเป็นปัญหาของพวกคนแคสิฟอร์เนียละ พวกเขาแค่ต้องการจะแตกต่างแต่พวกเขาก็เหมือนกันหมดอยู่ดี”สมเป็นเอโสดี...ผมคิด เธอต้องอยู่เหนือคนอื่นๆ เสมอผมกินอาหารเด้าตรงนอกซานที่รับแสงแดดตอนเด้า แต่ยังหลบเร้นจากพวกคนสอดรู้สอดเห็นที่อาจเกิดขึ้นได้ด้วยกระถางต้นไม้ขนาดยักษ์หนึ่งแถว ซึ่งนับว่าดีครับ เพราะนอกจากสายลมเย็นแล้ว เอโลดีดันเดินเตร่ไปมาด้วยชุดกิโมโนที่ถูกจัดมาอย่างเหนือชั้นเพื่อให้ชายที่จ้องมองมันเกิดคลั่งขึ้นมาอย่างเช่น...ผมไง คืออย่างนี้ครับ...ผมรู้ว่าเธอนั้นเจ้ากี้เจ้าการมากขนาดไหน และการยั่วยวนนั้นก็เหมือนกับเกมเพลย์สเตชั่นสำหรับเธอ คือไร้บทสรุปอย่างสิ้นเชิง แต่การเห็นเธอทำทำแบบในหนังเรื่องเบสิก อินสติงต์ อยู่นั้นมันก็ยากเกินไปสำหรับผู้ลี้ภัยที่ไร้รักอย่างผมจะทนไหว ผมมาที่นึ่เพื่อล้วงความลับของเธอนะครับ แต่ผมกลับเล่าเรื่องทั้งหมดของผมให้เธอฟังอย่างรวดเร็ว ผมถึงกับแต่งเรื่องบางอย่างขึ้นเพื่อความสนุก รัฐบาลฝรั่งเศสไม่จำเป็นต้องสร้างคุกกวนตานาโมขึ้นมาเพื่อล้วงข้อมูลจากผู้ต้องสงสัยโดยการทรมานหรอกครับ พวกเขาแค่ล่งเอโลดีไปสัมภาษณ์เท่านั้นก็พอ และผู้ก่อการร้ายที่ใจแข็งที่สุดก็อาจจะเผยความลับออกมาจนหมดไส้หมดพุงผมพยายามอย่างเต็มที่ที่จะมุ่งความสนใจของตัวเองไปที่มัฟฟันและกาแฟที่เจอรี่วางไวให้บนโต๊ะ เขาเอาใจ เอโลดี เกินเหตุ ป้อนมัฟฟินกล้วยและพีแคนให้เธอหลายชิ้น และเรียกเธอว่า 'ที่รัก’ ขณะที่เธอซักไซ้ไล่เลียงหาความจริงกับผมเรื่องลาสเวกัส ผมไม,แปลกใจเลยเมื่อจุดยืนด้านศีลธรรมของผมต่อเรื่องปีนกลอูซี่นั้นทำให้เธอหัวเราะ แน่นอนครับว่าสำหรับเธอนั้น การถูกเฉดหัวออกมาจากเมืองเพราะปฏิเสธที่จะลดมาตรฐานด้านศีลธรรมของคุณเพียงห้าวินาทีนั้นเป็นเรื่องไร้สาระอย่างสมบูรณ์แบบ จอร์จ อิสต์แมน “มันเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้อูฐหลังหักน่ะ’' ผมพูดอะไรนะ” เธอไม่รู้จักสำนวนนี้ครับ ผมคิดว่าบางทีคงเป็นเพราะเธอเป็นคนไม่มีฃีดจำกัด ผมพยายามจะอธิบายแนวคิดที่ว่า แม้แต่สัตว์ที่ใช้บรรทุกสินค้าที่ตัวใหญ่ที่สุดก็ยังรู้สึกรับไม'ไหวได้เหมือนกัน"ในฝรั่งเศสเราพูดว่า มันเหมือน'หยด,นํ้าที่...เอ่อ เรียกว่าไงนะ...ล้นออกมาจากแจกันน่ะ” เอโลดีพูด

กล่องไฟLEDทำเอง


อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดมันก็ไม่สำคัญทั้งนั้น เพราะผมไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับเธออีก ไม่มีประโยชน์ที่จะบอกเธอว่า การเดินทางจากชายฝังสู่ชายฝังทั้งหมดนั้นมันเป็นเรื่องหลอกลวง มันอาจจะแค่ยืนยันในสิงที่เธอคิดเกี่ยวกับผมตั้งแต่ตอนงานเลี้ยงนี้าชาในบอสตันและเรือเฟอร์รื่ที่เคปเมย์ ไม่หรอกครับ ก่อนหน้านั้นอีก ตั้งแต่ตอนที่ผิดพลาดเรื่องลายธงที่จะวาดลงบนรถมินิแล้วละเธอบอกว่าผมต้องการความฝัน แต่เธอต้องการให้ความฝันนั้นถูกวางแผน มันเป็นวิถีแบบฝรั่งเศส ถ้าคุณต้องการความฝันสักอย่างคุณต้องไปเข้าโรงเรียนความฝัน และเรียนจนจบปริญญาด้านความฝันสำหรับเธอ ผู้ชายในกระโปรงคิลต์ก็เป็นแค'ชายที่ไม่ได้ใส่กางเกง และการขับรถมินิข้ามทวีปโดยไม่รู้แน่ชัดว่าเรากำลังจะไปไหนก็เหมือนกับรถทิหลงทาง   โอเค มันเป็นความสับสนอลหม่าน ผมเริ่มเดินทางด้วยงานที่ปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์อันเรียบง่าย และดูเหมือนจะจบลงที่การเป็นนายแบบรองเท้ากึ่งเปลือย แตนนเป็นวิธีที่คนเขาพบทองกันในแคลิฟอร์เนียนะครับ พวกเขามองหาสถานที่เหมาะเจาะที่จะปลูกมันฝรั่งและไปสะดุดเข้ากับแท่งโลหะ พวกเขาคงจะเริ่มแตกตื่นว่าทะเลทรายอาจ'จะ'ไม่มีที่สิ้นสุด และสถานที่เดียวที่จะปลูกอะไรลงไปได้คงจะเป็นบนกองอึของตัวสกังค์ หลังจากนั้นพวกเขาก็พบกับความโชคดี ส่วนผม...ด้วยวิถีทางที่บ้าบอคอแตก ไม่เป็นปารีเชียง  กล่องไฟledlightbox และไร้แผนการของผมเองนี้...ก็เป็นแบบเดียวกันเป็นเรื่องยากมากที่ผมจะแงะหุ้นร้านนํ้าชาของผมออกมาจากเงื้อมมือของช็อง-มารึได้ แต่ผมก็ทำไดโดยไม่มือเล็กซา แทบจะไม่มืเธอเลย เจ้คและจูเลียนาเป็นคนที่อยู่เคียงข้างผม และเป็นคนที่เธออยากให้ผมทิ้งไวในไมอามี แม้แต่เอโลดีในสไตล์แปลกประหลาดของเธอก็ยังเกี่ยวข้องด้วยตั้งแต่ต้นจนจบ แต่อเล็กชากลับขู่ผมให้ทำลายเว็บไซต์ที่ทำให้ผมมีชื่อเสียงนั่นและทำให้เธอมืชื่อเสียงด้วย ถ้าเธอได้แสดงงานในชานฟรานชิสโก มันคงจะเป็นผลพวงโดยตรงจากเรื่องยุ่งๆ ของกระโปรงคิลต์และท่าเต้นเห, ยๆ ของ ผม ซึ่งมันเป็นเรื่องเหลวไหลที่เธอเคยหัวเราะเยาะใส่ก็นี่แหละ...ที่ผมไม่สามารถพูดออกไปว่า

“นี่ผมเองนะ” เพราะตัวตนที่แท้จริงของ “ผม” มันเป็นเรื่องตลกสำหรับอเล็กซาOne for the Roadโดดเดี่ยวไม่เดียวดาย“แกดูมีความสุขนะ” ผมพูดกับนกกระทุงที่จริงแล้วผมกำลังยอมันนิดหน่อย นกกระทุงสามารถดูบูดบึ้งอย่างมากด้วยจะงอยปากหักลงและการมีหน้าเง้างอแบบถาวร แต่เจ้าตัวนึ่ดูเหมือนพอใจในตัวเองอยู่มาก มันเกาะอยู่บนเสาต้นหนึ่งกลางทางไปท่าเรือเวนิส มีนํ้าหยดแหมะหลังการจับปลาที่ประสบความสำเร็จเพื่อนและญาติของมันยังอยู่ตรงนั้น กำลังทิ้งระเบิดกลางอากาศลงมาใส่นักเล่นกระดานโต้คลื่นสืบกว่าคนที่กำลังนั่งหายใจหอบอยู่ในชุดกบสีดำ รอคอยคลื่นที่สมบูรณ์แบบ“แกโชคดี” ผมบอกมัน '‘แกก็แค่ต้องจับปลา แกสามารถไปเล่นนํ้า  ทอม เอดิสัน หรือบินร่อนเมื่อไหร่ก็ได้ที่แกต้องการ และถ้าเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้นมา แกก็แค,บินวนเวียนไปรอบๆ จนกว่าแผ่นดินไหวจะหยุดและสีนามิผ่านโป ฟังดูดี,นะ ว่ามั้ย"นกกระทุงดูจะพึงใจอยู่เงียบๆ กับวิถีชีวิตที่สมบูรณ์แบบของมัน“แต่มันจะไม1ราบเรียบเกินไปหน่อยหรือ” ผมถามเจ้านก “ฉัน หมายความว่าฉันชอบชูชิ แต่ไม่ใช่ทุกมื้อนะ ถ้าแกเกิดเบื่อขึ้นมา สิงที่แกจะทำได้ก็มีแค่ออกไปอึใส่นักโต้คลื่น มันก็คงสนุกตอนครั้งแรกหรือครั้งที่สองนะ แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความแปลกใหม่มันจะค่อยๆ หายไปเพียงไม่นาน




”นกกระทุงสั่นหัวสีขาวขนาดใหญ่ของมัน ดูเหมือนมันจะบอกให้ผมไปชะผมทำตามและหันไปทางชายหาด ผมอยู่ระดับเดียวกับเส้นขอบนา ซึ่งวงแหวนเป็นฟองของนํ้าทะเลกำลังก่อตัวขึ้นและหายไปอย่างต่อเนื่อง เมื่อคลื่นแต่ละลูกพัดเข้ามาที่หาดทรายสีคัสตาร์ด หญิงสาวผมบลอนด์ร่างสูงคนหนึ่งกำลังเดินเท้าเปล่า รองเท้าของเธออยู่ในมือเท้าและข้อเท้าของเธอกำลังถูกคลื่นซัดจนมิดนํ้าทุกสองสามวินาที เธอเป็นเพียงคนเดียวที่มองเห็นได้บนชายหาดเหยียดยาว และมีบางสิงที่หงอยเหงาอย่างน่าสังเกตกับการได้เห็นเธอเดินอยู่ตรงนั้นตามลำพังโทรศัพท์ของ ผม เริ่มสั่นอ ยู่ในกระเป๋าไทเลอร์โทร.มา โดยพยายามพูดอย่างสุภาพ“พอล คุณต้องมาที่พิธีลงคะแนนนะ  กล่องไฟไลท์บ็อกซ์ ได้โปรด”“ทำไมล่ะ จะได้ทำเงินให้คุณมากขึ้นน่ะหรือ”“ไม่ใช่ เพราะผู้ร่วมงานหวังจะพบคุณ ประเทศของคุณหวังจะพบคุณ”“ไร้สาระ ประเทศของผมหวังจะให้ผมแพ้ ไทเลอร์ คุณไปเป็นไอ้ขี้แพ้ชะเถอะ”“ผมยังมิอีเวนต์อีกมากในแอลเอที่เลือกมาเพี่อคุณเลยนะ คุณไม1อยากได้โบนัสแล้วหรือ”"คุณไปทำเถอะ หากระ'โปรงคิลต้ใส่'ชะ”ผมได้ยินเสียงเขากระแอม“ถ้าคุณไม่มาที่โรงละครภายในหนึ่งชั่วโมง คุณจะไม่ได้ส้กเพนนี”เขาพูด “ไม่ได้สักเซ็นต์ สักยูโร”




กล่องไฟถ่ายภาพ

วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ติดตั้งระบบไฟอย่างไรให้สตูดิโอดูดี







เพียงแค'สิบหรือสิบห้านาทีต่อมา ไดโนเสาร์หนองนํ้าตัวหนึ่งก็โผล่ออกมาจากความมีด ตาสี่ข้างของมันสว่างมากจนเราแสบตาขณะที่มันล่องสว่างไปทั่วป่าราวครึ่งไมล์ มันคือรถซ่อมฉุกเฉินที่ขับเช้ามาจอด  อยู่ข้างถนน เป็นรถกระบะที่มีล้อขนาดใหญ่เป็นสองเท่าของรถมินิ และความกว้างหน้าล้อเท่ากับตัวรถมินิซึ่งมีดอกยางเหมือนแนวเทือกเขาแบล็กเมาน์เทน ส่วนที่ติดอยู่ด้านหลังนั้นคือ เครนระบบไฮดรอลิกที่ยืดขยายได้ มีสายเคเบิลหนาเท่ากับโซ่ล่ามสมอของเรือเดินสมุทรลักเส้นอยู่ด้วย เจ้ายานพาหนะซิ้นนี้ดูเหมือนจะถูกออกแบบมาให้สามารถบุกตะลุยไปในแม่นํ้าแสะดึงเอาเรือบรรทุกนํ้ามันกลับขึ้นฝืงมาได้เลยช่างเครื่องกระโดดลงมาบนพื้น เขาเป็นชายหนุ่มรูปร่างผอมบางแต่แข็งแรงในชุดเอี๊ยมตัวโคร่งสืเหลือง หมวกเบสบอลของเขาหลุบตํ่าและแนบสนิทกับหัว กล่องไฟถ่ายรูปราคาถูก เขามิเคราแบบขนสัตว์เส้นแข็งๆ กระจัดกระจายอยู่ประปรายเหมือนเข็มสีทองที่ปักอยู่บนหมอนปักเข็มหมุดช่างซ่อมรถดึงก้นบุหรี่ออกมาจากปากและหัวเราะ

“ปกติไม่ได้ซ่อมโรลเลอร์เบลดหรอกนะ” เขาพูด“นี่ไม่ใช่โรลเลอร์เบลด” ผมทักท้วง “ล้อไม1ได้เรียงเป็นแถวตรงสักหน่อย"เขามองผมหัวจรดเท้า “รถคุณเหรอ'' เจ้าพาหนะคันเล็กดูจะลงตัว เข้ากันดึ กับชาวต่างชาติร่างสูงโย1งในเสื้อ แจ็คเก็ตสีฉูดฉาด และกระโปรงผมยอมร้ป แล้วเขาก็ใหัผมอธิบายสิงที่เกิดขึ้นโดยละเอียด“ดูเหมือนจะไม่มีอะไรผิดปกติกับเครื่องยนต์นะ” โรแลนด์พูดแต่ช่างซ่อมไม่สนใจ เขานวยนาดเข้ามา โยนบุหรี่ที่จุดอยู่ลงบนพื้น และมองไปใต้กระโปรงหน้ารถ“เราต้องไปถึงนิวออร์ลีนส์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะท่าได้'' เรเน่บอกช่างซ่อมพยักหน้าเงียบๆ และเข้าไปนั่งในรถมินิ เขาหมุนกุญแจเพื่อตรวจดูตัวเลขจากแผงหน้าปัด และนั่งตรงนั้นโดยไม่เคลื่อนไหวอยู่ไม่กี่วินาที ทุกคนยกเว้นโรแลนด์กำลังมองเขา กล่องไฟlightbox ราวกับกำลังคอยให้นกพิราบสักตัวโผล่ออกมาจากหมวกเบสบอลของเขาอย่างมหัศจรรย์โรแลนด์กำลังขยับนาพิกาของเขาไปมาอย่างไร้จุดหมาย หงุดหงิดกับการทำท่าทางแบบมือสมัครเล่นทั้งหมดนี่ช่างซ่อมรถขยับตัวในที่สุด แล้วกวักมือเรียกผมเข้าไป“มาดู,นี่สิ'พ่อ'ขายาว”“ไหนขอดูหน่อย” โรแลนด์แทรกตัวมาอยู่ตรงหน้าผม ก้มหน้าไปดู แล้วก็ส่งเสียงร้องออกมาทันทีเหมือนกับทีมของเขาเพิงจะฑำทัชดาวน์ที่ไม่ได้เรื่อง “นี้ามันหมด" เขาพูด คำวินิจฉัยของเขาจมดิ่งลึกลงไปเท่ากับการเจาะนํ้ามันในอ่าวเม็กซิโกเลยละ“นํ้ามันหมด...” เรเน่พูดชํ้าชายรถปีกอัพก้าวออกมาอย่างภาคภูมิจากรถมินิ “อยู่ใจกลางแหล่งนํ้ามันที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกาแท้ๆ แต่เสือกนํ้ามันหมด” เขาว่า“ไม1มิทาง” ผมปกป้องตัวเอง “เราเพิ่งเติมกันไปเมื่อวานนี้เองเติมไปสามสิบดอลลาร์ตอนที่เราข้ามมาถึงลุยเชียนา”มืใบหน้าแห่งความสงสัยสะท้อนให้เห็นภายใต้แสงไฟปีศาจที,ส่องจากหน้ารถกระบะ“ผมให้คุณดูใบเสร็จก็ได้นะ” ผมเสริมชายซ่อมรถคุกเข่าลงและตรวจดูใต้รถ "ไม่รั่ว” เขาพูดใบหน้าแห่งความสงสัยเหล่านั้นหันมาที่ผมอีก ไม่มีประโยชน์,ที่ผมจะล้วงหาใบเสร็จค,านั้ามันในกระเป๋าสตางค์ พวกเขาคงจะหาว่าผมปลอมมันขึ้นมาอยู่ดี“คุณมืนํ้ามันติดรถมาด้วยหรือเปล่า" ผมถาม“มี แต่คุณปล่อยให้มันหมดเกลี้ยงอย่างนี้ คุณจะท่าให้เครื่องสูบป้อนเชื้อเพลิงพัง ผมลากมันไปตรวจดีกว่า บางทีอาจมีอะไรรั่วที่ตรงไหน"เขาท่าหน้าตาแบบช่างซ่อมผู้มืเหตุมืผลที่ถูกบังคับให้แจ้งว่า คุณจะต้องจ่ายเงินเขาเป็นจำนวนมากในเวลาอันใกล้นี้ละนะเธลมาถูกลากหายสับไปในความมืด หลังคาธงยูเนียนแจ็คของเธอกำลังเผยิบผยาบอยู่อย่างท้าทาย แต่ไร้ซึ่งกำลังที่จะต่อกรกับเจ้ารถลากคันยักษ์ แล้วผมก็ถูกย้ายไปน้งในรถคันใหญ่ และออกเดินทางไป  diylightbox นิวออร์ลีนส์ที่นั่น ตามคำสั่งของเรเน่และโปรดิวเชอร์รายการทีวีผู้เคร่งเครียดผมส่งยิ้มไปที่โลโก้ของโรงแรมบนป้ายไฟนีออน เซ็กอินเข้าห้องพักห้องหนึ่ง พลางโกหกพนักงานต้อนรับที่กำลังฉีกยิ้มเหมือนคนบ้าว่าผมมีการเดินทางในเมืองที่ยอดเยี่ยมขนาดไหน แล้วชื่นชมการตกแต่งห้องสวีทอันหรูหราที่มืเตียงสี่เสาและห้องนํ้าใหญ่เท่ากับโรงรถขนาดสองคัน หลังจากแสดงความเห็นสั้นๆ ผมก็ตกลงใจที'จะจมจ่อมลงบนเก้าอี้นวมบุกำมะหยี่ประดับพู่ตัวหนึ่ง และแกล้งท่าเป็นกังวลว่ากล้องอาจจะส่องเข้าไปใต้กระโปรงคิลต์ของผมอยู่ก็ได้จากนั่นผมก็ออกจากโรงแรมไปเดินเที่ยว สนุกสนานเฮฮาไปตามถนนเบอร์เบินสตรีท ผมตั้งใจจะกระเซ้าเย้าแหย'กับผู้คนที่กำลังฮาเฮ และหยุดอยู่หน้าประตูทางเข้าผับเพื่อฟังเสียงดนตรี แตกล้มเลิกแผนนี้ไป เมื่อกลายเป็นว่าการเย้าแหย่เพียงอย่างเดียวที่ผมจะท่าได้นั้นคือการพูดว่า “ฟักยูเช่นกันเว้ย'' ให้กับพวกนักคืกษาชายที่สาดเบียร์รดเสื้อของผมและส่งเสียงดังเอะอะเกี่ยวกับการโชว์ขาอ่อนของผมเช้าวันถัดมา วัดโรว์พาผมไปที่โรงรถ ช่างซ่อมบอกข่าวร้ายกับผมว่า เครื่องสูบป้อนเชื้อเพลิงนั่น photolightboxทำเอง  ‘เจ๊งกะบี'-ง’ แบบสุดๆ ไปเลย และน่าจะใช้เวลาสองถึงสามวันในการซ่อมผมโทร.หาสุรายาเพื่อขอคำแนะน่า'ฉันต้องการคำแนะน่าของคุณค่ะ’' เธอบอกผมทันทีที่ผมต่อสายติด ''ฉันควรบอกพ่อของฉันเรื่องที่ฃอยืมสกูตเตอร์ฃองเพื่อนบ้านมาใช้ดีมั้ยคะ”“อะไรนะ"เธอเล่าปัญหาส่าสุดของเธอให้ผมฟังว่าเธอละเลยคำขอร้องของพ่อ คือแทนที่จะเดินไปท่างานหรือลาออกจากงาน เธอกลับรับข้อเสนอของหนุ่มเพื่อนบ้านที่จะให้เธอยืมรถสกูตเตอร์ของเขา

กล่องไฟถ่ายรูป